รวบรวมตำนานเล่าขานถึงที่มาของสมญานาม “หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด” By Wanich
4 ปีที่ผ่านมา
สวัสดีครับ
บทความนี้เกิดจากความสงสัยใคร่รู้หลังจากที่ผมได้ศึกษา "เหรียญเปิดโลก ของหลวงปู่ดู่วัดสะแก" ที่ท่านได้อัญเชิญองค์หลวงปู่ทวดนั่งบนฐานบัวมาไว้ด้านหน้าเหรียญ พร้อมกับใส่ตัวอักษรว่า "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด"
จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ทวดถึงมีสมญานามตามหลังชื่อท่านว่า "เหยียบน้ำทะเลจืด" จึงได้ลองหาประวัติ/ตำนานเล่าขาน มารวบรวมไว้ให้คลายสงสัยครับ
สำหรับหลวงปู่ทวด แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักฐานการยืนยันว่ามีตัวตนอยู่จริงแบบชัดเจน แต่ตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีมาถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้ที่เคารพนับถือท่านอยู่มากมาย สำหรับตำนานเล่าขานถึงสมญานามของท่านนี้มีอยู่ 2 เรื่องเล่า แม้ว่าโครงเรื่องจะคล้ายกันแต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างนิดหน่อยครับ
ตำนานที่ 1
ขณะที่สมเด็จเจ้าฯ(หลวงปู่ทวด) จำพรรษาอยู่ ณ วัดพะโคะ (จังหวัดสงขลาในปัจจุบัน) คาดว่า ท่านมีอายุ 80 ปีเศษ
วันหนึ่งท่านถือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวไม้เท้านี้มีลักษณะคดไปมาเป็น 3 คด ชาวบ้านเรียกว่า “ไม้เท้า 3 คด” ท่านออกจากวัดมุ่งหน้าเดินไปยังชายฝั่งทะเลจีน ขณะที่ท่านเดินพักผ่อนรับอากาศทะเลอยู่นั้น ได้มีเรือโจรสลัดจีนแล่นเลียบชายฝั่งมา พวกกลุ่มโจรสลัดจีนเห็นท่านเดินอยู่คิดเห็นว่าท่านเป็นคนประหลาดเพราะท่านครองสมณเพศ พวกโจรจึงแวะเรือเทียบฝั่งจับท่านลงเรือไป
เมื่อเรือโจรจีนออกจากฝั่งไม่นาน เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น คือ เรือแล่นต่อไปไม่ได้ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกโจรพยายามแก้ไขจนหมดความสามารถเรือก็ยังไม่เคลื่อน จึงได้จอดเรือนิ่งอยู่ ณ ที่นั้นเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดน้ำจืดที่นำมาบริโภคในเรือก็หมดสิ้น จึงขาดน้ำจืดดื่มและหุงต้มอาหารพากันเดือดร้อนกระวนกระวายด้วยกระหายน้ำเป็นอย่างมาก หลวงปู่ทวดท่านเห็นถึงความเดือดร้อนของพวกโจรถึงขั้นที่สุดแล้ว ท่านจึงเหยียบกราบเรือให้ตะแคงต่ำลงแล้วยื่นเท้าเหยียบลงบนผิวน้ำทะเล
เมื่อท่านยกเท้าขึ้นจากพื้นน้ำทะเลแล้วก็บอกให้พวกโจรตักน้ำตรงนั้นมาดื่มชิมดู พวกโจรจีนแม้จะไม่เชื่อก็จำเป็นต้องลองเพราะไม่มีทางใดจะช่วยตัวเองได้แล้ว แต่ได้ปรากฏว่าน้ำทะเลเค็มจัดที่ตรงนั้นแปรสภาพเป็นน้ำจืด จึงเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง พวกโจรจีนเห็นประจักษ์เช่นนั้น ก็พากันเกรงกลัวว่าจะมีภัยเกิดแก่พวกเขาต่อไป จึงได้พากันขอขมาโทษแล้วนำท่านล่องเรือส่งกลับขึ้นฝั่งต่อไป หลังจากนั้นเรื่องราวนี้จึงเลื่องลือแผ่ขยายไป จนทำให้ผู้คนตั้งสมญานามให้ท่านว่า "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด"
ตำนานที่ 2
เมื่อครั้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง หลวงปู่ทวดท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านเจ้าคุณฯ อยู่ที่วัดพุทไธสง อยุธยา ขณะนั้นท่านต้องการกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่สงขลา จึงจำเป็นที่จะต้องโดยสารเรือสำเภาไป เมื่อไปถึงสงขลาแล้วแวะเยี่ยมเยียนบ้านเกิดเรียบร้อย ขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ พวกบรรดาลูกเรือได้ตั้งวงร่ำสุรากันจนลืมที่จะตุนน้ำดื่นไว้ให้เพียงพอเวลาเดินทางกลับ เมื่อออกเรือไปไม่กี่วันน้ำดื่มก็หมดลง
พวกลูกเรือทั้งหลายได้กล่าวหาหลวงปู่ทวดว่าเป็นรางร้ายที่ทำให้ต้องมาประสบพบเจอกับเหตุการณ์นี้ จึงจับท่านเตรียมจะไปปล่อยไว้ที่ "เกาะหนูเกาะแมว" เมื่อนั้นหลวงปู่จึงได้อธิษฐานจิตว่า "ถ้าตัวข้ายังสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่วงการพุทธศาสนาได้ ขอให้น้ำทะเลตรงที่เอาเท้าจุ่ม ได้กลายเป็นน้ำจืด
เมื่อจุ่มเท้าลงไปแล้วท่านจึงบอกให้บรรดาลูกเรือตักน้ำบริเวณนั้นมากิน ปรากฎว่าเป็นน้ำจืดจริงๆ ทำให้บรรดาลูกเรือต่างก็รีบขอขมาที่บังอาจล่วงเกินท่าน พอถึงกรุงศรีอยุธยาแล้วเรื่องราวนี้ก็ได้แพร่สพัดออกไปเป็นวงกว้าง จึงเกิดสมญานามที่ชาวบ้านเรียกท่านต่อท้ายว่า "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" จวบจนปัจจุบัน
ขอขอบคุณที่มา
https://medium.com/พระพุธศาสนา/ประวัติ-หลวงปู่ทวด-เหยียบน้ำทะเลจืด-วัดช้างให้-บ้านเลียบ-ต-ดีหลวง-อ-สทิงพระ-จ-สงขลา-d5a5e47516dd
https://www.google.com/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&ved=2ahUKEwjIipqR19TvAhXaxzgGHcoBDT4QwqsBMAR6BAgUEAM&url=https%3A%2F%2Fwww.youtube.com%2Fwatch%3Fv%3DkndRTuHhPiM&usg=AOvVaw13Mxb01dZYYaOs_1ZA_iLF
บทความนี้เกิดจากความสงสัยใคร่รู้หลังจากที่ผมได้ศึกษา "เหรียญเปิดโลก ของหลวงปู่ดู่วัดสะแก" ที่ท่านได้อัญเชิญองค์หลวงปู่ทวดนั่งบนฐานบัวมาไว้ด้านหน้าเหรียญ พร้อมกับใส่ตัวอักษรว่า "หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด"
จึงเกิดความสงสัยว่าทำไมหลวงปู่ทวดถึงมีสมญานามตามหลังชื่อท่านว่า "เหยียบน้ำทะเลจืด" จึงได้ลองหาประวัติ/ตำนานเล่าขาน มารวบรวมไว้ให้คลายสงสัยครับ
สำหรับหลวงปู่ทวด แม้ว่าจะไม่ได้มีหลักฐานการยืนยันว่ามีตัวตนอยู่จริงแบบชัดเจน แต่ตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีมาถึงปัจจุบัน ทำให้มีผู้ที่เคารพนับถือท่านอยู่มากมาย สำหรับตำนานเล่าขานถึงสมญานามของท่านนี้มีอยู่ 2 เรื่องเล่า แม้ว่าโครงเรื่องจะคล้ายกันแต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างนิดหน่อยครับ
ตำนานที่ 1
ขณะที่สมเด็จเจ้าฯ(หลวงปู่ทวด) จำพรรษาอยู่ ณ วัดพะโคะ (จังหวัดสงขลาในปัจจุบัน) คาดว่า ท่านมีอายุ 80 ปีเศษ
วันหนึ่งท่านถือไม้เท้าศักดิ์สิทธิ์ประจำตัวไม้เท้านี้มีลักษณะคดไปมาเป็น 3 คด ชาวบ้านเรียกว่า “ไม้เท้า 3 คด” ท่านออกจากวัดมุ่งหน้าเดินไปยังชายฝั่งทะเลจีน ขณะที่ท่านเดินพักผ่อนรับอากาศทะเลอยู่นั้น ได้มีเรือโจรสลัดจีนแล่นเลียบชายฝั่งมา พวกกลุ่มโจรสลัดจีนเห็นท่านเดินอยู่คิดเห็นว่าท่านเป็นคนประหลาดเพราะท่านครองสมณเพศ พวกโจรจึงแวะเรือเทียบฝั่งจับท่านลงเรือไป
เมื่อเรือโจรจีนออกจากฝั่งไม่นาน เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้น คือ เรือแล่นต่อไปไม่ได้ต้องหยุดนิ่งอยู่กับที่ พวกโจรพยายามแก้ไขจนหมดความสามารถเรือก็ยังไม่เคลื่อน จึงได้จอดเรือนิ่งอยู่ ณ ที่นั้นเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดน้ำจืดที่นำมาบริโภคในเรือก็หมดสิ้น จึงขาดน้ำจืดดื่มและหุงต้มอาหารพากันเดือดร้อนกระวนกระวายด้วยกระหายน้ำเป็นอย่างมาก หลวงปู่ทวดท่านเห็นถึงความเดือดร้อนของพวกโจรถึงขั้นที่สุดแล้ว ท่านจึงเหยียบกราบเรือให้ตะแคงต่ำลงแล้วยื่นเท้าเหยียบลงบนผิวน้ำทะเล
เมื่อท่านยกเท้าขึ้นจากพื้นน้ำทะเลแล้วก็บอกให้พวกโจรตักน้ำตรงนั้นมาดื่มชิมดู พวกโจรจีนแม้จะไม่เชื่อก็จำเป็นต้องลองเพราะไม่มีทางใดจะช่วยตัวเองได้แล้ว แต่ได้ปรากฏว่าน้ำทะเลเค็มจัดที่ตรงนั้นแปรสภาพเป็นน้ำจืด จึงเป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง พวกโจรจีนเห็นประจักษ์เช่นนั้น ก็พากันเกรงกลัวว่าจะมีภัยเกิดแก่พวกเขาต่อไป จึงได้พากันขอขมาโทษแล้วนำท่านล่องเรือส่งกลับขึ้นฝั่งต่อไป หลังจากนั้นเรื่องราวนี้จึงเลื่องลือแผ่ขยายไป จนทำให้ผู้คนตั้งสมญานามให้ท่านว่า "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด"
ตำนานที่ 2
เมื่อครั้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง หลวงปู่ทวดท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นท่านเจ้าคุณฯ อยู่ที่วัดพุทไธสง อยุธยา ขณะนั้นท่านต้องการกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่สงขลา จึงจำเป็นที่จะต้องโดยสารเรือสำเภาไป เมื่อไปถึงสงขลาแล้วแวะเยี่ยมเยียนบ้านเกิดเรียบร้อย ขณะที่กำลังจะเดินทางกลับ พวกบรรดาลูกเรือได้ตั้งวงร่ำสุรากันจนลืมที่จะตุนน้ำดื่นไว้ให้เพียงพอเวลาเดินทางกลับ เมื่อออกเรือไปไม่กี่วันน้ำดื่มก็หมดลง
พวกลูกเรือทั้งหลายได้กล่าวหาหลวงปู่ทวดว่าเป็นรางร้ายที่ทำให้ต้องมาประสบพบเจอกับเหตุการณ์นี้ จึงจับท่านเตรียมจะไปปล่อยไว้ที่ "เกาะหนูเกาะแมว" เมื่อนั้นหลวงปู่จึงได้อธิษฐานจิตว่า "ถ้าตัวข้ายังสามารถสร้างประโยชน์ให้แก่วงการพุทธศาสนาได้ ขอให้น้ำทะเลตรงที่เอาเท้าจุ่ม ได้กลายเป็นน้ำจืด
เมื่อจุ่มเท้าลงไปแล้วท่านจึงบอกให้บรรดาลูกเรือตักน้ำบริเวณนั้นมากิน ปรากฎว่าเป็นน้ำจืดจริงๆ ทำให้บรรดาลูกเรือต่างก็รีบขอขมาที่บังอาจล่วงเกินท่าน พอถึงกรุงศรีอยุธยาแล้วเรื่องราวนี้ก็ได้แพร่สพัดออกไปเป็นวงกว้าง จึงเกิดสมญานามที่ชาวบ้านเรียกท่านต่อท้ายว่า "หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" จวบจนปัจจุบัน
ขอขอบคุณที่มา
https://medium.com/พระพุธศาสนา/ประวัติ-หลวงปู่ทวด-เหยียบน้ำทะเลจืด-วัดช้างให้-บ้านเลียบ-ต-ดีหลวง-อ-สทิงพระ-จ-สงขลา-d5a5e47516dd
https://www.google.com/url?sa=t&rct=j&q=&esrc=s&source=web&cd=&ved=2ahUKEwjIipqR19TvAhXaxzgGHcoBDT4QwqsBMAR6BAgUEAM&url=https%3A%2F%2Fwww.youtube.com%2Fwatch%3Fv%3DkndRTuHhPiM&usg=AOvVaw13Mxb01dZYYaOs_1ZA_iLF
วานิชจิวเวลรี่ - Wanich Jewelry จิวเวลรี่มือ1และ2 ของแท้ สินค้าหลุดจำนำ
สมัครสมาชิกร้านนี้ เพื่อรับสิทธิพิเศษ
ธ.ไทยพาณิชย์
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
วานิชจิวเวลรี่ - Wanich Jewelry จิวเวลรี่มือ1และ2 ของแท้ สินค้าหลุดจำนำ
วานิชจิวเวลรี่ เป็นแบรนด์ย่อยของ “ห้างทองทองดี” จังหวัดอยุธยาฯ (ตรงข้ามเรือนจำจังหวัดเก่า) ที่เปิดให้บริการมาเกือบร้อยปี ปัจจุบันดำเนินกิจการโดยรุ่นที่สาม วานิชจิวเวลรี่ เรามุ่งเน้นในการคัดสินค้าเครื่องประดับทั้งมือ1/มือ2 สินค้าหลุดจำนำ และสินค้าที่เป็นของสะสมของทางร้าน ทอง นาก เงิน นอกจากนี้ยังมีพระเครื่องและวัตถุมงคลอื่นๆ โดยทุกชิ้นรับประกันแท้โดยผู้เชี่ยวชาญ สิ่งที่เราเน้นย้ำที่สุดคือเราเชื่อว่าเครื่องประดับทุกชิ้นต่างก็มีคุณค่าในตัวของมันเอง ยิ่งกว่านั้นคือมีคุณค่าต่อลูกค้าที่รับสินค้าจากเราไป เพราะฉะนั้นเราจึงเน้นในขั้นตอนของการคัดเลือกสินค้ามาก ว่าจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมในราคาที่สมเหตุสมผล (หากสินค้าชิ้นไหนที่มีตำหนิเราจะเขียนลงไปในรายละเอียดสินค้า) ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ไว้ใจให้วานิชจิวเวลรี่ส่งมอบเครื่องประดับทรงคุณค่าให้แก่ท่าน
เบอร์โทร : 0997874261
อีเมล :
อีเมล :
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม